วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หลักการฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง

หลักการฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง

หลักการฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
          การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองให้มีความไพเราะ ถูกต้อง ต้องคำนึงถึงหลักการในการอ่าน ดังนี้
          ๑. ฝึกอ่านให้ถูกต้องตามทำนองและลีลาของลักษณะคำประพันธ์
          ๒. ฝึกอ่านออกเสียงอักขระ คำควบกล้ำ จะต้องอ่านให้ถูกต้องชัดเจน
          ๓. ฝึกอ่านเอื้อเสียงสัมผัส เพื่อให้เกิดความไพเราะ เช่น
                   - “ข้าขอเคารพอภิวันท์” คำว่า เคารพอภิวันท์ ต้องอ่านว่า เคา-รบ-อบ-พิ-วัน เพื่อเอื้อเสียงให้สัมผัสกับคำว่า เคารพ
                   - “มิใช่จักลืมคุณกรุณา” คำว่า กรุณา ต้องอ่านว่า กะ-รุน-นา เพื่อเอื้อเสียงให้สัมผัสกับคำว่า คุณ
          ๔. ฝึกอ่านออกเสียงให้เต็มเสียงและต่อเนื่อง ไม่ให้ขาดเป็นห้วงๆ และฝึกสอดแทรกอารมณ์ให้เหมาะสมกับ
เนื้อเรื่อง
          ๕. ฝึกอ่านเว้นวรรคตอนให้เหมาะสมกับเนื้อหา บางครั้งต้องอ่านรวบคำหรือผ่อนเสียงตามเนื้อหาเช่น “แขกเต้าจับเต่าร้างร้อง” ต้องอ่านว่า แขกเต้า-จับเต่าร้าง-ร้อง หมายถึง นกแขกเต้าจับต้นเต่าร้างส่งเสียงร้อง ถ้าหากอ่านเว้นวรรคตอนผิดความหมายก็จะผิดไปจากเดิม กลายเป็นว่า นกแขกเต้าจับเต่า ไม่ใช่ จับที่ต้นเต่าร้าง เป็นต้น
          ๖. ฝึกอ่านจากครูผู้สอนที่มีทักษะในการอ่านที่ถูกต้องหรือฝึกอ่านจากอุปกรณ์บันทึกเสียงจะช่วยให้เข้าใจศิลปะการออกเสียง เช่น การเอื้อนเสียง การหลบเสียง การครั่นเสียง การกระแทกเสียง การทอดเสียง การรวบคำ เพื่อนำทักษะดังกล่าวมาปฏิบัติด้วยตนเอง
                   การเอื้อนเสียง             หมายถึง          การลากเสียงให้เข้ากับจังหวะและไว้หางเสียงให้ไพเราะ
                   การหลบเสียง              หมายถึง          การปรับระดับเสียงที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไปให้พอดีกับ
ระดับเสียงของตน
                    การครั่นเสียง               หมายถึง          การทำเสียงที่เปล่งออกมาให้สะดุด ฟังแล้วรู้สึก
เศร้าสร้อย
                   การกระแทกเสียง          หมายถึง          การกระชากเสียงให้ห้วนสั้นเพื่อแสดงอารมณ์โกรธ
                   การทอดเสียง              หมายถึง          การยืดคำให้ยาวออกไปในตอนท้ายวรรคหรือตอน
ใกล้จะจบ
                   การรวบคำ                 หมายถึง          การรวบคำที่มีหลายพยางค์ให้สั้นเข้า เพื่อให้ลงตรงจังหวะ
การแบ่งจังหวะวรรคตอนการอ่านตามชนิดของคำประพันธ์
๑. กาพย์ฉบัง๑๖
วรรค  ๖  คำ  แบ่งออกเป็น  ๓  จังหวะ  จังหวะละ  ๒  คำ
วรรค  ๔  คำ  แบ่งออกเป็น  ๒  จังหวะ  จังหวะละ  ๒  คำ
ตัวอย่าง           ราชา / นารี / ร่ำไร                          มีกรรม / จำใจ
จำไป / พอปะ / พสุธา
                   มีไม้ / ไทรใหญ่ / ใบหนา                    เข้าไป / ไสยา
เวลา / พอค่ำ / รำไร
๒. กาพย์ยานี ๑๑
วรรค  ๕  คำ  แบ่งออกเป็น  ๒  จังหวะ  จังหวะละ  ๒  และ  ๓  คำ
วรรค  ๖  คำ   แบ่งออกเป็น  ๒  จังหวะ  จังหวะละ  ๓  คำ
ตัวอย่าง
รอนรอน / อ่อนอัสดง               พระสุริยง / เย็นยอแสง
ช่วงดัง / น้ำครั่งแดง                          แฝงเมฆเขา / เงาเมรุธร
๓. กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
           วรรค ๔ คำ  แบ่งออกเป็น  ๒  จังหวะ  จังหวะละ  ๒  คำ 
ตัวอย่าง                                                 วันนั้น/ จันทร
          มีดา / รากร                         เป็นบ- / ริวาร
เห็นสิ้น / ดินฟ้า                     ในป่า / ท่าธาร
มาลี / คลี่บาน                      ใบก้าน / อรชร
๔. กลอนแปด (กลอนสุภาพ)
 - วรรค  ๗  คำ  แบ่งออกเป็น  ๓  จังหวะ  จังหวะละ  ๒-๒-๓  คำ
ตัวอย่าง
เทพทั้ง / เมืองฟ้า / สุราลัย      เป็นใย / บัวติด / สไบบาง
- วรรคละ  ๘  คำ  แบ่งออกเป็น ๓ จังหวะ จังหวะละ ๓-๒-๓  คำ
ตัวอย่าง
โอ้จำใจ / ไกลนุช / สุดสวาท                จึงนิราศ / เรื่องรัก / เป็นอักษร
ให้เห็นอก / ตกยาก / เมื่อจากจร                     ไปดงดอน / แดนป่า / พนาวัน
กับศิษย์น้อง / สองนาย / ล้วนชายหนุ่ม              น้อยกับพุ่ม / เพื่อนไร้ / ในไพรสัณฑ์
กับนายแสง / แจ้งทาง / กลางอารัญ                 จะพากัน / แรมทาง / ไปต่างเมือง
- วรรค ๙ คำ  แบ่งออกเป็น  ๓  จังหวะ  จังหวะละ  ๓-๓-๓  คำ
ตัวอย่าง
ไม่เมาเหล้า / แล้วแต่เรา / ยังเมารักแต่เมาใจ / นี้ประจำ / ทุกค่ำคืน
๕.  โคลงสี่สุภาพ
วรรค  ๕  คำ  แบ่งออกเป็น  ๒  จังหวะ  จังหวะละ  ๒  และ  ๓  คำ
วรรค  ๔  คำ   แบ่งออกเป็น  ๒  จังหวะ  จังหวะละ  ๒  คำ
ตัวอย่าง           เสียงลือ / เสียงเล่าอ้าง              อันใด     พี่เอย
                    เสียงย่อม / ยอยศใคร                        ทั่วหล้า
                     สองเขือ / พี่หลับใหล                        ลืมตื่น    ฤาพี่
                     สองพี่ / คิดเองอ้า                           อย่าได้ / ถามเผือ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น