วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

การผันวรรณยุกต์โดยการใช้ไตรยางศ์


ไตรยางศ์ (อักษรสามหมู่)




การผันวรรณยุกต์โดยการใช้ไตรยางศ์

๑. กลางและสูง คำเป็น รูปเป็นอะไร เสียงเป็นแบบนั้น
๒. กลาง คำตาย พื้นเสียงเป็นเสียง เอก
๓. สูงคำเป็น พื้นเสียงเป็นเสียงจัตวา
๔. สูงคำตาย พื้นเสียงเป็นเสียงเอก
๕. ต่ำคำเป็น พื้นเสียงสามัญ
๖. ต่ำคำตาย เสียงสั้น พื้นเสียงตรี
๗. ต่ำคำตาย เสียงยาว พื้นเสียงโท
๘. ต่ำ เสียงวรรณยุกต์ เกิน รูป ๑ ระดับ
๙. วรรณยุกต์รูปตรี ใช้ได้เฉพาะอักษรกลาง

ตัวอย่างการแต่งนิราศ

นิราศบางสิบหมื่น

                                                                       นิราศร้างห่างเจ้าทำใจเหงา
          แสนห่วงหาอาวรณ์รักสองเรา                              ยามเมื่อเศร้าต้องห่างต้องจากไป
          แสนห่วงหาความหลังของสองเรา                          จากลำเนาพลัดถิ่นไปแดนไกล
          จากถิ่นฐานเคยอยู่เคยอาศัย                               สุขหทัยชื่นบานกว่าใครใคร
          บ้านเคยอยู่อู่เคยนอนต้องทิ้งหนี                           ด้วยพี่นี้มีภาระต้องจากไป
          สุดห่วงหาคิดถึงและห่วงใย                                ขอมอบใจพี่นี้ให้น้องนาง
          มือน้องนี้อย่าให้ใครได้จับ                                  จงขยับหลีกหนีให้ไกลห่าง
          ตัวน้องนางของพี่ยิ่งบอบบาง                               จงสำอางให้งามเหมือนดั่งเคย
          ก่อนจากลาคืนนี้ขอสักหน                                  ขอหน้ามนนอนตักให้ชิดเชย
          กอดจูบลูบไล้ไม่ละเลย                                     ของนางเอยจงหลับและฝันดี
          ครั้นพอตื่นสุดถวิลและห่วงหา                              ตัวน้องยาอยู่ไหนไม่เห็นมี
          สัญญาณดังเหลือเวลาสามนาที                             ไร้ซึ่งวี่และแววของน้องนา
          ขึ้นรถมาอ้างว้างสะเทือนจิต                                 ไร้ซึ่งมิตรญาติพี่น้องข้างกายา
          ต้องจากลาทำหน้าที่ที่ได้มา                                  เพื่อพัฒนาความรู้คู่ปัญญา
          แสนอ่อนล้าวังเวงอยู่ในทรวง                                ด้วยเป็นห่วงนวลนางที่บ้านนา
          เผลอหลับไปในฝันเห็นแก้วตา                               เที่ยววิ่งหาวิ่งไล่หาพี่ชาย
          สะดุ่งตื่นขึ้นมาใจหดหู่                                       เห็นสองคู่หนุ่มสาวนั่งเรียงราย
          แต่เรานั้นขาดนางมาเคียงกาย                               เห็นแล้วอายเจ็บซ้ำระกำทรวง
          สองข้างทางแมกไม้เขียวขจี                                  ไม่เหมือนพี่นั้นไซร้ไร้คู่ครอง
          ต่อจากนี้ใจน้อยน้อยหนึ่งดวง                               จะขอหวงให้น้องนวลละออ
          โอ้งามงอนป่านนี้จะอยู่ใย                                    จะมีใครดูแลเธอบ้างหนอ
          เจ้านางฟ้าคนดีเจ้าจงรอ                                     เจ้าอย่าท้อรอวันพี่คืนหา
          ถึงสระแก้วโรงเกลือแล้วใจหด                              เหมือนหินกดปักทับกลางอุรา
          พี่คิดถึงห่วงหาสุดชีวา                                       ดวงดาราป่านนี้เป็นเช่นไร
          บางประกงขาวใสงดงามนัก                                  งามดั่งพักตร์จรัสใสโฉมวิไล
          บางประกงศูนย์รวมร่วมน้ำใจ                               เกริกเกียรติไกลวิถีประเพณี
          โอ้เมืองชลใหญ่โตมโหฬาร                                  เมืองวิมานแดนดินถิ่นชีวี
          บางสิบหมื่นทะเลงามเมืองคนดี                             ทุกนาทีบรรยากาศสดใสนัก
          เขาสามมุกตำนานล่ำลือมา                                  ม้วยชีวาวีรกรรมแห่งความรัก
          ตั้งตระหง่านสูงใหญ่เป็นประจักษ์                           สัญลักษณ์บางแสนแดนสุขสันต์
          อันวอล์คกิ้งแหลมแท่นและแหลมทอง                      ชายตามองสลดแสนโศกัลย์
          เหล่าผู้คนจูงมือพัลวัน                                      แต่ตัวฉันจูงลมอยู่เดียวดาย
          โอ้หาดทรายทอดยาวดูงามยิ่ง                              ขอนอนนิ่งหยุดพักให้เหนื่อยหาย
          ครั่นว่าเจ้าสายสมรของพี่ชาย                               เจ้านั้นหายจากไปเมื่อวันวาน
          โอ้ถึงแล้วแก้วตา “มอบูรพา”                               ถิ่นศึกษาใฝ่รู้มาช้านาน
          ต่อจากนี้พี่ยาขอสาบาน                                     จะแตกฉานวิชาให้เขาชม
          บูรพาคือแสงตะวันฉาย                                    เปล่งประกายบัณฑิตย์ชื่นภิรมย์
          บูรพาคือถิ่นอันอุดม                                       เร่งอบรมบ่มศิษย์ให้ได้ดี
          บูรพาคือแสงแห่งปัญญา                                  ที่นำพาลูกศิษย์ให้เปรมปรีดิ์
          บูรพาคือถิ่นอันสุขขี                                       ถิ่นเสรีผู้คนใช้ศึกษา
          โอ้น้องนางที่รักอยู่ทางไกล                                เป็นแรงใจให้พี่พัฒนา
          จะเร่งรีบศึกษาทุกเพลา                                   ขอดาราจงมั่นในพี่เอย
                                               
                                                                            
                                                                             อาทิตย์รัตติกาล
                                                                  31/01/2560
                                                           นายสุทธิพงษ์  ปินะถา
                                                                        ครู
                                                                               






ตัวอย่างการเขียนสารคดีท่องเที่ยว

มนต์บางแสน

          บางแสนแสนสุข สามมุขลือนาม ข้าวหลามหนองมน ประชาชนสามัคคี ประเพณีวันไหล  นี่คือคำขวัญประจำบางแสนนั่นเองครับ เอ๊ะแต่ทำไมผมถึงรู้จักคำขวัญของที่นี่หล่ะครับ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ใช่คนบางแสน
          มันเป็นอะไรที่พูดยากอยู่นะ  สำหรับเด็กบ้านนอก ไม่สิเด็กชายแดนอย่างผมที่จะรู้จักชื่อ ๆ นี้   “บางแสน” เอาง่าย ๆ เลยแล้วกันนะ  ผมไม่เคยรู้จักชื่อนี้มาก่อนเลย  บางแสนอยู่ส่วนไหนของประเทศ บางแสนอยู่ภาคไหน บางแสนอยู่จังหวัดอะไร  ผมไม่รู้จริง ๆ ครับ   เฮ้อ !!! แล้วจะไปยังไงละทีนี้   อ๋อลืมบอกไป ผมกำลังจะไปสมัครสอบตรง ม.บูรพาครับ  เอาแล้วไงจะไปถูกไหมเนี่ย  18.00 น. เสียงเพลงชาติดังขึ้นของวันไหนจำไม่ได้แฮะ  พ่อเรียกขึ้นรถยนต์และขับตรงไปที่บางแสนเพื่อพาผมไปสมัครสอบ   ตื่นครับตื่น  ส่งแค่ บขส. เท่านั้นแหละครับนิสัยของพ่อผม  ถอนหายใจรัว ๆ นี่ผมต้องไปเองจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย  ???  เอาละครับทำใจเถอะแค่นั่งรถแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึง ขึ้นรถตั้งแต่ 20.00 น.     ตื่นห้า หก รอบก็ยังไม่ถึงเลย  (คิดในใจ จะรอดไหมเนี่ย) และแล้วผมก็โน้มตัวลงและหลับต่อ ตื่นมาอีกที OMG !!! ศรีราชา  เอ๊ะเท่าที่จำความได้นะ ศรีราชา มันเลยที่ที่ต้องลงแล้วอะดิ  เฮ้อ !!! ชีวิตผมครั้งแรกก็ต้องเจออะไรแบบนี้เลยหรอ  กดสิครับ กริ่ง กริ่ง  กริ่ง รออะไรท่าน  สรุปว่าคนขับบอก ลืม  ห่ะ แม่เจ้า   ทำไงดีละทีนี้   โทรสิครับ ตึด ตึด ตึด   ถามพ่อว่าทำไง  ผมก็ได้คำตอบสุดแสนจะโคตรซึ้ง คำตอบคือ   “นั่งรถแดงกลับหนองมน”  555+ อยากรู้ไหมครับว่าที่รถทัวร์ มันไม่จอดเพราะอะไร   ก็ผมดันไปบอกว่าลงบางแสน  สรุปคือรถทัวร์มันไม่ได้ผ่านบางแสน ไอ้ที่ผ่านคือหนองมน สรุปผมบอกผิดเต็ม ๆ เลยครับ  เฮ้อ ถอนหายใจยาว ๆ เอาว่ะ มาถึงขนาดนี้ละ นั่งก็นั่งว่ะรถแดง  สรุปเลยละกัน ถึงบางแสน 08.00 น. เหนื่อยครับ นอนพักที่ห้องพักริมทะเล แลดูดีมีชาติตระกูลมาก 555+
          13.00 น. ตื่นครับตื่น  อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน แต่งตัว  เอาละโว้ย ม.บู  ผมมาหาแล้วนะครับ  ไป ม.บู ไม่ยากครับ พี่วินมีอยู่ทุกหนทุกแห่งแต่มันช่างตื่นเต้นเหลือเกิ๊น  พี่วินแกเล่นปาดซ้าย ปาดขวา   งานถนัดพี่เขาเลยละครับ  ลงจากรถขาอ่อนทุกรายและต้องเช็ค ว่าครบ 32 ด้วยนะ  “ภปร” คือ ชื่อตึก ในการรับสมัครในรอบนี้  คนนะหรอคิวยาวเป็นกิโลเลยครับ  เพราะอะไรนะหรอ ??? เพราะมันเป็นรอบเก็บตกคนที่ลืมสมัครในอินเทอร์เน็ตอะครับ  ว่าแล้วก็ไปสมัครดีกว่าเดี๋ยวไม่ทัน  รูปพร้อม ปากกาพร้อม เอกสารพร้อม คนละพร้อมไหม ???  พร้อมสิครับมาขนาดนี้ละ  15.00 น. สมัครเสร็จเรียบร้อยแล้วครับท่ไปไหนต่อดี  มีพี่เขาแนะนำให้ไปแหลมทอง  งงอะดิ แหลมทอง เคยได้ยินแต่แหละแท่น  ไปก็ไปครับ   แหลมทอง  โอ้มายก็อต นี่มันห้างที่ขนาดใหญ่มาก ๆ แต่ก็นะ ชื่อห้างไม่ได้ทันสมัยอะไรเลยครับท่านเดินเข้าไปในแหลมทอง มีร้านอาหาร  KFC  HOTPOT  SWENSEN  ชาบู โอ๊ย เยอะครับ  ที่สำคัญมีโรงหนังด้วยนะครับ  แบบว่าไปที่เดียวครบเลยครับ ร้านเสื้อผ้า ร้านทอง ร้านตัดผม ครบหมด การเดินทางก็ไม่ยากครับ ออกจากหน้า ม.บู เลี้ยวขวา เดินตรงไป 200 เมตร เจอเลย ถ้ามาจากฝั่งสุขุมวิท ห้างจะอยู่ขวามือติดถนนใหญ่เลยครับ
          หลังจากอิ่มหนำสำราญจากแหลมทองแล้ว  พี่เขาก็แนะนำไปหาดบางแสน  วิธีไปก็ไม่ยากเช่นกันครับโบกพี่วินคนเดิมแต่เปลี่ยนหน้าครับ  ลงรถ จ่าย 20 บาท  แว๊บแรกในใจ ร้อนโคตร ๆ เลยครับ บรรยากาศโดยรอบ มีเปล  มีร่ม  มีผู้คนมากมาย  มีร้านขายอาหารเรียงรายกันเป็นแถว บ้างก็หาบเร่   บ้างถือพลุงพลัง แล้วแต่ความสามารถละครับ  ไหน ๆ ก็มาถึงแล้วเดินเล่นหาดทรายก่อนละกัน  เดินไป  นั่งไป  วิ่งไป  เหนื่อยครับ  ทะเลอะหรอ บอกได้คำเดียว “ดำสุด ๆ” แต่คนก็เล่นกันนะครับ   เพราะมันไม่ไกลจาก กรุงเทพฯ สะดวกในการเดินทาง ค่ายใช้จ่ายไม่ได้สูงอะไร มีครบไม่ว่าจะเป็น  บานาน่าโบ้ท  อาหารทะเล  เปลนั่ง  ห่วงยาง เสื้อผ้า  และฝรั่งหล่อ ๆ สวย ๆ  ขาดก็แต่น้ำทะเลใส ๆ เท่านั้นเองครับ  ถ้ามาจาก หน้า ม.บู ก็ตรงถนนลงหาดบางแสนมาประมาณ 1 กิโลเมตร จะเจอวงเวียนบางแสนครับ ลักษณะจะเป็นเหมือนแผนม้วนคัมภีร์ครับ ใหญ่มาก ๆ
          สถานที่ที่พี่เขาแนะนำให้ไปอีกที่คือ “เขาสามมุก” ไปไหว้ขอพรศาลเจ้าแม่มุกเพื่อความเป็นสิริมงคลครับ  ไปสิครับ รออะไร โบก ๆ ๆ พี่วินคนเดิมแต่เปลี่ยนหน้านะครับ  จ่าย 20 บาท ลงรถ แว๊บแรก ในใจ ลิง  เยอะชิบหาย  ใครพกขนมมาต้องระวังให้ดี ๆ เพราะมันจะแย่งแบบหน้าด้าน ๆ พลาดคือพลาด ไม่มีวันได้คืน  เอาละครับ จุดมุ่งหมายของสถานที่นี้คือ ไหว้ศาลเจ้าแม่มุก ขอพรให้สอบติด  ส่วนตำนานเจ้าแม่มุก ไว้ค่อยเล่าในตอนหลังแบบเจาะลึกละกันครับ  วันนี้แค่นี้ก่อนละกัน  เหนื่อยครับเหนื่อย   เตรียมเก็บของ กลับบ้าน รอมาสอบข้อเขียนเดือนหน้า
          “บางแสน” ถึงจะไปยากนิดหน่อยกับครั้งแรกของผม แต่ผมก็ประทับใจนะครับ  มีทั้งทะเล ภูเขา
ห้างใหญ่ ๆ แหล่งท่องเที่ยวกลางคืน  มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง  อาหารการกินเพียบครับ เดือนหนึ่งยังกินไม่ครบทุกร้านเลยครับ   การเดินทางไปไหนก็แสนจะสะดวก จะไปกรุงเทพฯ สายใต้ หมอชิต ที่นี่เขาไปได้หมดครับ  ถือว่าไม่ผิดหวังครับกับการมาครั้งแรกของผม  ไม่ลองไม่รู้นะครับ ทุกท่าน ใครอยากได้ธรรมชาติดี ๆ  บรรยากาศสุดชีคยากค่ำคืน หรือห้างใหญ่ เชิญที่บางแสนเลยครับ รับรองไม่ผิดหวัง !!!
อ่อ ลืมบอกไปที่บางแสนเขามีวอล์คกิ้งสตรีทด้วยนะครับ


                                                                            อาทิตย์รัตติกาล
                                                                                    31/01/2560
                                                                        นายสุทธิพงษ์  ปินะถา
                                                                                  ครู